Health4senior

เทคนิคการเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะกับตัวเอง

ในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งที่ถูกใจซักคู่ ถือเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจพอสมควร ถ้าหากคุณไม่มีความรู้ อาจได้เพียงรองเท้าวิ่งที่สวมใส่สบายเมื่อตอนที่อยู่ในร้านเท่านั้น แต่พอวิ่งบนเส้นทางจริงก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ปวดไปทั้งขาได้ ดังนั้นเราจึงมีเทคนิคในการเลือกที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน เพื่อให้คุณได้รองเท้าวิ่งที่ถูกใจที่สุด คุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง

 

1. รองเท้าวิ่งโดยเฉพาะ

การนำรองเท้าผ้าใบแฟชั่นมาใส่วิ่ง เป็นทางเลือกที่ไม่ฉลาด เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยาว แม้ว่าในชีวิตประจำวัน บางคนอาจแย้งว่า คุณสามารถวิ่งได้คล่องแคล่วถึงจะสวมใส่รองเท้าแตะเสียด้วยซ้ำ…คุณอาจ สามารถใช้รองเท้าเหล่านั้นได้เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ไม่เหมาะแน่หากคุณกำลังคิดจะยึดการวิ่งเป็นกีฬาประจำตัวในการออกกำลังกาย นั่นเพราะการวิ่งเป็นประจำจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและรับภาระของช่วงล่างซ้ำ ๆ การมีอุปกรณ์ที่ถูกต้องและซัพพอร์ทการเคลื่อนไหวของคุณได้ดีจะทำให้คุณได้รับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นน้อยลง รองเท้าวิ่งจะมีการถนอมข้อเท้าที่ดีกว่า

 

2. ประเภทของการวิ่ง

วิ่งมาราธอน วิ่งระยะใกล้ วิ่งระยะไกลหรือวิ่งในยิม สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อลักษณะของรองเท้าวิ่ง หลักง่าย ๆ คือ ยิ่งคุณวิ่งเป็นระยะทางไกลมากเท่าไหร่ ควรเลือกรองเท้าที่มีการบุนวมหนาขึ้นเพื่อซัพพอร์ทกล้ามเนื้อและกระดูกข้อเท้าไม่ให้รับภาระมากเกินไป สำหรับในส่วนของการวิ่งวิบากแบบมาราธอนสิ่งสำคัญคือ เรื่องของดอกยางที่สามารถเกาะพื้นได้ดี พื้นรองที่ซัพพอร์ทฝ่าเท้า จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นบนเส้นทางได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทางขรุขระ ทางลื่น สำหรับการวิ่งในยิมซึ่งไม่มีอุปสรรคอะไรมากนัก รองเท้าวิ่งมักจะเน้นความสมดุลและความสามารถในการเกาะยึดพื้นผิว เพราะพื้นในโรงยิมส่วนใหญ่มักเป็นยางที่ลื่น ดังนั้นอาจเสียหลักได้ในกรณีที่เปียกเหงื่อหรือน้ำหก

 

3. ชนิดของรองเท้าวิ่ง

ชนิดของรองเท้าวิ่งจะสัมพันธ์กับประเภทของการวิ่งที่คุณเลือก ดังนี้

  • Neutral shoes : รองเท้าประเภทนี้เหมาะกับการวิ่งในยิมหรือพื้นที่เฉพาะอย่างสนามกีฬาและสวนสาธารณะ มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง แต่การซัพพอร์ทอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการพลิกและเส้นทางคดเคี้ยวน้อยกว่าประเภทอื่น ๆ
  • Stability shoes : รองเท้าประเภทนี้มีความสมดุลค่อนข้างสูง เหมาะกับนักวิ่งที่ชอบไปยังเส้นทางในชีวิตประจำวันเช่นการวิ่งไปทำงานหรือสถานที่ต่าง ๆ หรือการวิ่งขึ้นลงบันไดตามสิ่งก่อสร้าง เพราะตัวรองเท้ามีการซัพพอร์ทเพื่อป้องกันข้อเท้าพลิกและหกล้มค่อนข้างดี
  • Motion control : รองเท้าประเภทนี้จะมีรูปร่างภายนอกที่ดูหนาที่สุดเมื่อเทียบกับรองเท้าวิ่งแบบอื่น ๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ไปจนถึงนักวิ่งมืออาชีพ คนที่ยึดการวิ่งเป็นกีฬา วิ่งทุกวัน ไปวิ่งแทบทุกงาน เพราะรองเท้าวิ่งประเภทนี้จะถนอมข้อเท้าและกล้ามเนื้อขาสูงสุด ลดความเสี่ยงบาดเจ็บสำหรับคนที่วิ่งหนักและบ่อย
  • Barefoot shoes : รองเท้าประเภทนี้เน้นโครงสร้างปราดเปรียวและน้ำหนักเบา เน้นใส่แล้วเคลื่อนไหวสบาย ๆ แบบ Crossfit

 

4. ใส่ได้พอดี

หากรองเท้าไม่พอดี เพียงแค่เดินเรายังรู้สึกว่าลำบาก ยิ่งต้องใส่วิ่งจนครบตามเป้าหมายระยะเวลาด้วยแล้วคงเป็นเรื่องที่ไม่สบายเท้าเป็นอย่างมาก ดังนั้นวิธีเช็กว่ารองเท้าที่ใส่พอดีหรือไม่มีดังนี้

  1. กระชับ : โดยเฉพาะบริเวณข้อเท้าที่เมื่อสวมใส่รองเท้าวิ่งแล้วรู้สึกว่าตัวรองเท้าสามารถโอบกระชับได้อย่างดี เวลาแบะเท้าออกแล้วไม่ลื่นไหลหรือพลิกไปมา
  2. มีพื้นที่หน้ารองเท้า : ตรงหัวรองเท้าช่วงปลายนิ้วและนวมบุรองเท้าควรมีที่ว่างประมาณครึ่งเซ็นติเมตร คุณสามารถลองจิกเล็บดูภายในร้องเท้า งอนิ้วได้นิดหน่อย เพื่อป้องกันปัญหารองเท้ากัดเมื่อเท้าขยายและเล็บขบ
  3. ซื้อตอนเย็น : ข้อนี้สำคัญ เพราะเท้าที่ผ่านการเดินมาตลอดทั้งวันจะขยายมากที่สุด ทำให้เราสามารถกะได้ว่าซื้อรองเท้าไซส์ไหนมาจึงจะไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป

 

5. ลองเสมอ

กรณีที่ซื้อรองเท้าวิ่งครั้งแรกในชีวิต คุณควรลองสวมที่ร้านก่อนเสมอ บางร้านที่มีขนาดใหญ่อาจจะมีบริเวณออกกำลังกายอย่างลู่วิ่งให้ลูกค้าได้ลองสวมวิ่งด้วย แต่ถ้าไม่…ลองสวมแล้วเดินไปมาในร้าน เพื่อให้มั่นใจว่ารองเท้าวิ่งคู่นั้นกระชับเท้าของคุณอย่างแท้จริง ถ้าไม่เคยมีรองเท้าวิ่งมาก่อน หรือเปลี่ยนแบรนด์ที่ไม่เคยใช้ ไม่ควรเสี่ยงซื้อทางออนไลน์ แต่ถ้าเคยซื้อรองเท้าวิ่งมาแล้ว และต้องการคู่ใหม่แบรนด์เดิม ก็สามารถเลือกตามแบบเดิมที่เคยมีได้เลย

 

เรียบเรียงโดย : กองบรรณาธิการ
แหล่งที่มา : www.rei.com, www.runningshoesguru.com,
ภาพประกอบจาก : www.freepik.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

แสดงความคิดเห็น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก